ทุกข์
ได้แก่ ชาติ ชรามรณะ การประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก การพลัดพลากจากของรัก ความปรารถนาไม่สมหวัง โดยย่อว่าอุปทานขันธ์ ๕ (ขันธ์ ๕ ที่ยึดด้วยอุปทาน)เป็นทุกข์ หน้าที่ต่อทุกข์ คือ การกำหนดรู้ เข้าใจมัน รู้เท่าทันความเป็นจริง (เรียกว่า ปริญญา)
ทุกขสมุทัย หรือ สมุทัย
(เหตุเกิดแห่งทุกข์) แก่ตัณหา คือ ความร่านรนทะเยอทะยานอยาก ที่ทำให้เกิดภพใหม่ ประกอบด้วยความเพลิดเพลินและความติดใจคอยใฝ่หาความยินดีใหม่ๆ เรื่อยๆไปมี ๓ คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา หน้าที่ต่อสมุทัย คือ ละเสีย ทำให้หมดไป เรียกว่าปหานะ
ทุกขนิโรธ หรือ นิโรธ
(ความดับทุกข์) ได้แก่การที่ตัณหาดับไปไม่เหลือด้วยการคลายออก สละเสียได้ สลัดออก พ้นไปได้ ไม่พัวพัน หน้าที่ต่อนิโรธ คือ ทำให้แจ้ง ทำให้สำเร็จ ทำให้เกิดมีเป็นจริงขึ้นมา หรือบรรลุถึงเรียกว่า สัจฉิกิริยา
ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
(ปฏิปทาที่นำไปสู่ความดับแห่งทุกข์) เรียกสั้นๆว่า มรรค ได้แก่ทางประเสริฐมีองค์ประกอบ ๘ คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมสังกัปปะ สัมมาวาจา ส สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ หน้าที่ต่อมรรค คือ เจริญ ฝึก หรือปฏิบัติ เรียกว่า ภาวนา
อริยสัจ ๔
โดย พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล